ความสำคัญและพันธกิจ

บุคลากรเป็นทรัพยากรที่สำคัญที่จะช่วยขับเคลื่อนการดำเนินงานขององค์กรให้ไปสู่เป้าหมายที่ของการเป็นบริษัทชั้นนำและส่งเสริมความสามารถของการแข่งขันขององค์กรในตลาดได้ บริษัทฯ จึงให้ความสำคัญต่อการดำเนินการตามกฎหมายด้านแรงงานและสวัสดิการ ประกอบกับหลักการด้านสิทธิมนุษยชน เพื่อปฏิบัติกับพนักงาน ด้วยความเท่าเทียม เป็นธรรม และการไม่เลือกปฏิบัติตลอดจนส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาศักยภาพของพนักงานและจัดหาสภาพแวดล้อมการทำงานที่มีความ ปลอดภัยและมีสุขอนามัยที่ดี เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดี พร้อมสร้างสมดุลระหว่างการทำงาน สุขภาพ และความเป็นอยู่ส่วนตัว ด้วยความเชื่อมั่นว่าพนักงานทุกคน มีศักยภาพและมีความสุขจะมีส่วนช่วยผลักดันให้บริษัทฯ เติบโตอย่างยั่งยืน บริษัทฯ จึงให้ความสำคัญต่อการดำเนินงานด้านการบริหารจัดการทรัพยาการบุคคล

การบริหารความผูกพันของพนักงาน 4 ด้านหลักประกอบด้วย

1. การจ้างงาน และผลตอบแทนที่เป็นธรรม
2. พัฒนาศักยภาพพนักงาน
3. บริหารความผูกพันของพนักงานต่อองค์กร
4. การรักษาพนักงาน

บริษัทฯ ได้ยึดถือหลักการปฏิบัติต่อแรงงานอย่างเป็นธรรม ตามมาตรฐานแรงงานไทยที่เป็นข้อบัญญัติของกฎหมายแรงงานเป็นหลัก โดยครอบคลุมถึงหลักเกณฑ์ ที่เกี่ยวกับการบริหารจัดการด้านแรงงาน และสภาพการทำงาน หรือการใช้แรงงานที่มีความเหมาะสมและเป็นธรรม ทั้งในเรื่องของ ค่าจ้างชั่วโมงการทำงานและวันหยุด รวมถึงการจัดสวัสดิการที่ช่วยเสริมสร้างความมั่นคงทางอาชีพและสังคมให้กับแรงงาน รวมถึงการพัฒนาศักยภาพและความสามารถในอาชีพ ด้วยความเชื่อมั่น ว่าการเติบโตอย่างยั่งยืนของบริษัทฯ มาจากพนักงานมีศักยภาพ มีความสมดุลในชีวิต และมีความสุข และพร้อมที่จะส่งมอบสินค้า หรือบริการที่มีคุณภาพต่อลูกค้า และผู้มีส่วนได้เสียที่จะช่วยให้เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของบริษัทฯ ให้มีความมั่นคงทางเศรษฐกิจต่อไป ดังนั้น บริษัทฯ จึงได้วางแผนกลยุทธ์ด้านบุคลากร ที่สอดคล้องกับค่านิยมหลัก (Corporate Core Value: S-P-I) นโยบายคุณภาพของเครือสหพัฒน์ คือ "คนดี สินค้าดี สังคมดี" พร้อมกับการน้อมนำปรัชญาการดำเนินธุรกิจของ ดร.เทียม โชควัฒนา ผู้ก่อตั้งเครือสหพัฒน์ “การดำเนิน ธุรกิจที่ดี ต้องไม่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตน และทำสิ่งต่างๆ อย่างมีจริยธรรม” มาใช้เพื่อเป็นแนวทางในการวางกรอบของการดูแล พนักงานที่อยู่ในองค์กรให้เป็นบุคคลากรประสิทธิภาพ พร้อมที่จะสนับสนุนองค์กรไปสู่เป้าหมาย รวมถึงมีความรับผิดชอบต่อสังคม ส่วนรวม โดยบริษัทฯ ได้พัฒนากลยุทธ์ของการบริหารจัดการด้านทรัพยากรบุคคลผ่านการให้ “คุณค่า (Value)” เพื่อสร้างรากฐาน ที่มั่นคงในการพัฒนาสร้างความแข็งแกร่งและเตรียมพร้อมต่อการเติบโตอย่างยั่งยืนใน 4 ด้าน คือ

การบริหารความผูกพันของพนักงาน

เป้าหมายและผลการดำเนินงาน

เป้าหมาย

  1. อัตราการสรรหาและว่าจ้างสำเร็จตามแผนร้อยละ 80
  2. พนักงานต้องได้รับการฝึกอบรมไม่น้อยกว่า 3 หลักสูตรต่อปี
  3. พนักงานและผู้บริหารได้รับการประเมินผลการปฏิบัติงานร้อยละ 100
  4. จํานวนชั่วโมงอบรมเฉลี่ยของพนักงานไม่น้อยกว่า 18 ชั่วโมงต่อคนต่อปี
  5. ระดับความผูกพันของบุคลากรที่มีต่อองค์กร (Employee Engagement) ไม่น้อยกว่าร้อยละ 80

ผลการดำเนินงานที่สำคัญ

สามารถสรรหาพนักงานและจ้างพนักงานร้อยละ 80.85

จำนวนหลักสูตรทั้งหมด 157 หลักสูตร/ปี

พนักงานและผู้บริหารได้รับการประเมิน ผลการปฏิบัติงานร้อยละ 100

จํานวนชั่วโมงการฝึกอบรมเฉลี่ยของพนักงานเท่ากับ 34.20 ชั่วโมง/คน/ปี

ระดับคะแนนผลสำรวจความผูกพันของบุคลากรที่มีต่อองค์กร เท่ากับร้อยละ 83.65

การสนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน

ความเท่าเทียมทางเพศ

งานที่มีคุณค่าและการเติบโตทางเศรษฐกิจ

โครงสร้างพื้นฐาน นวัตกรรมและอุตสาหกรรม

ความร่วมมือเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน

แนวทางการบริหารจัดการ

การสรรหาและการจ้างงาน

บริษัทฯ ได้กำหนดให้มีระเบียบของการจ้างงานไว้อย่างชัดเจน โดยพนักงานจะต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 18 ปี บริบูรณ์ เพื่อปฏิบัติ ตามหลักปฏิบัติการไม่ใช้แรงงานเด็ก พร้อมพิจารณาคุณวุฒิ ความรู้ความสามารถให้ตรงตามตำแหน่งหน้าที่ตามที่บริษัทฯ ได้กำหนด ไว้ โดยเปิดโอกาสและไม่จำกัดหรือกีดกัน เพศสภาพ สีผิว เชื้อชาติ ศาสนา หรือสถานะทางสังคม ค่าจ้างและผลตอบแทน บริษัทฯ ดำเนินการด้วยความเป็นธรรมให้เหมาะสมตามหน้าที่ความรับผิดชอบ ความรู้ ความสามารถ และประสบการณ์ เพื่อให้สามารถดึงดูด แรงงานและแข่งขันในตลาดได้

การจ้างงานพนักงานเกษียณอายุ

บริษัทฯ ได้หนดให้มีระเบียบการเกษียณอายุพนักงาน และรายละเอียดของเงินตอบแทนการเกษียณอายุของบริษัทฯ โดยได้ กำหนดเกณฑ์ให้พนักงานที่อายุครบ 60 ปี บริบูรณ์ (นับตามบัตรประจำตัวประชาชน) จะเป็นผู้เกษียณอายุการทำงานของบริษัทฯ พนักงานที่มีอายุครบ 60 ปี ในปีใด และให้พนักงานทำงานจนถึงวันสุดท้ายของปีนั้น และจะสิ้นสุดการเป็นพนักงานของบริษัทฯ ในวันที่ 1 มกราคม ในปีถัดไป หรือ พนักงานที่มีอายุครบ 60 ปี ในวันใดของเดือน และมีความประสงค์จะสิ้นสุดการเป็นพนักงาน ของบริษัทฯ ในเดือนนั้น ให้พนักงานทำงานจนถึงวันสุดท้ายของเดือนนั้นและจะสิ้นสุดการเป็นพนักงานของในวันที่ 1 ของเดือนถัดไป ส่วนเงินตอบแทนการเกษียณอายุบริษัทฯ จะคำนวณเวลาถึงวันสุดท้ายของการทำงานแก่พนักงาน และค่าตอบแทนอื่นที่พนักงาน พึงได้รับ บริษัทฯ จะเฉลี่ยให้ตามอายุการทำงานในปีนั้น โดยจ่ายตามเงื่อนไข วัน เวลาที่บริษัทฯ กำหนด

ค่าตอบแทน

นอกจากการจ้างที่เป็นผลตอบแทนที่เป็นตัวเงิน ยังได้พิจารณาจัดสรรสวัสดิการและสิทธิประโยชน์เพิ่มเติมจากสวัสดิการ พื้นฐานตามกฎหมายกำหนดให้แก่พนักงานทุกคนอย่างไม่เลือกปฏิบัติโดยยึดหลักความเหมาะสมตามหน้าที่ความรับผิดชอบ นอกจากนั้น บริษัทฯ ยังได้พิจารณาจ่ายเงินโบนัสให้แก่พนักงานในแต่ละปีตามผลประกอบการของบริษัทฯ และตามผลการปฏิบัติงานของ พนักงาน ในปี 2567 บริษัทฯ ได้จ่ายผลตอบแทนให้แก่พนักงานในรูปแบบเงินเดือน เบี้ยประชุม เงินอุดหนุน ค่าล่วงเวลา เบี้ยเลี้ยง เป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 323,227,475.18 บาท นอกจากส่วนของค่าจ้างแล้ว บริษัทฯ ได้จัดตั้งกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ โดยบริษัท หลักทรัพย์จัดการกองทุน แลนด์ แอนด์ เฮาส์ จำกัด โดย ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2567 มีพนักงานที่เป็นสมาชิกกองทุนทั้งสิ้น 154 คน จะได้รับเงินสมทบจากบริษัทฯ ในอัตราร้อยละ 3 - 8 ของค่าจ้าง ซึ่งเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 14,778,228 บาท โดยสมาชิกสามารถ เลือกอัตราเงินสะสมเข้ากองทุนในอัตราร้อยละ 3-15 และเมื่อสิ้นสุดสมาชิกภาพจะได้รับเงินสะสมและเงินสมทบ รวมทั้งส่วนเฉลี่ย ผลประโยชน์สุทธิตามเงื่อนไขของกองทุน

เวลาการทำงานของบริษัทฯ ได้อ้างอิงตามเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด ทั้งวัน เวลาทำงาน เวลาพัก และวันหยุดประจำสัปดาห์ วันหยุดตามประเพณี และวันหยุดประจำปี วันลาตามประเภทต่างๆ ซึ่งจะได้สิทธิในการรับเงินค่าจ้างตามข้อกำหนดของกฎหมาย ได้แก่ ลาป่วย ลากิจ ลาคลอด และลาอุปสมบท ลาเพื่อรับราชการทหาร และฝึกอบรม นอกจากนี้ บริษัทฯ เพิ่มเติมวันลาเพื่อประกอบ พิธีทางศาสนา กรณีบิดามารดา สามีภรรยาหรือบุตรของพนักงานถึงแก่กรรม ลาปฏิบัติธรรม และลาเพื่อดูแลภรรยาหลังคลอด ซึ่งเป็นไปตามระเบียบข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงาน ของบริษัท สหพัฒนาอินเตอร์โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) ที่กำหนดไว้

การจัดสรรสวัสดิการสำหรับพนักงาน

บริษัทฯ ได้แจ้งเรื่องสวัสดิการและสิทธิประโยชน์ที่พนักงานจะได้รับแก่พนักงานทราบตั้งแต่วันแรกที่เริ่มงานกับบริษัทฯ ผ่านการปฐมนิเทศพนักงานใหม่ และเปิดโอกาสให้พนักงานมีส่วนร่วมในการปรับปรุงสวัสดิการให้เหมาะสม โดยจัดให้มีคณะกรรมการสวัสดิการ (Welfare Committee) ที่ได้รับการเลือกจากพนักงาน มีหน้าที่ประชุมร่วมกับฝ่ายบริหารองค์กรและบุคลากร ซึ่งเป็นตัวแทนจะทําหน้าที่ เป็นผู้แทนจากบริษัทฯ โดยกำหนดให้มีการประชุมทุก 3 เดือน เพื่อส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีของ พนักงาน และเป็นช่องทางหนึ่งในการรับฟังความคิดเห็น ข้อเสนอแนะ รวมถึงข้อร้องเรียนจากพนักงาน

สวัสดิการหลัก (Fixed Benefit) สวัสดิการแบบยืดหยุ่น (Flexible Benefit)
  • สวัสดิการกองทุนเลี้ยงชีพ
  • สวัสดิการสหกรณ์ออมทรัพย์เพื่อพนักงานเครือสหพัฒน์
  • สวัสดิการห้องพยาบาล
  • สวัสดิการประกันภัยกลุ่ม
  • สวัสดิการประกันสุขภาพกลุ่ม
  • สวัสดิการเยี่ยมพนักงานกรณีเจ็บป่วยหรือบาดเจ็บ
  • สวัสดิการการกรณีพนักงานถึงแก่กรรม
  • สวัสดิการกรณีบิดา มารดา สามีภรรยาและบุตรของพนักงานถึงแก่กรรม
  • สวัสดิการเงินช่วยเหลือกรณีที่อยู่อาศัยพนักงานประสบภัย
  • สวัสดิการเงินกู้เพื่อที่อยู่อาศัยธนาคารอาคารสงเคราะห์
  • สวัสดิการสินเชื่อธนาคารออมสิน
  • สวัสดิการตรวจสุขภาพประจำปี
  • ด้านการรักษาพยาบาล
  • ด้านการส่งเสริมสุขภาพ ส่งเสริมบุคลิกภาพ
  • ด้านส่งเสริมการศึกษา การพัฒนาอาชีพและคุณภาพชีวิต
  • ด้านการส่งเสริมสุขภาพจิตใจ
  • ด้านการส่งเสริมสันทนาการ
  • ด้านอื่นๆ เช่น ค่าเบี้ยประกันชีวิต/สุขภาพ ค่าซ่อมรถ ค่าหนังสือ เป็นต้น
การประเมินผลและการกำหนดค่าตอบแทนของผู้บริหารและพนักงาน

การประเมินผลการปฏิบัติงานของผู้บริหารและพนักงาน ทำให้ทราบถึงประสิทธิภาพของการปฏิบัติงานของพนักงานและ ผู้บริหารแต่ละคน ซึ่งจะเป็นประโยชน์ในการวางแผนพัฒนาและฝึกอบรมให้แก่พนักงานและผู้บริหารเพื่อให้มีคุณสมบัติ ความสามารถ และศักยภาพในการทำงานมากยิ่งขึ้น รวมถึงประโยชน์ต่อการวิเคราะห์ด้านการพัฒนาบุคลากร ดังนั้น บริษัทฯ จึงได้เปิดโอกาสให้ พนักงานทุกคนมีส่วนร่วมในการกำหนดแผนการพัฒนางานของตัวเองร่วมกับหัวหน้างาน ซึ่งจะเป็นการเปิดโอกาสให้หัวหน้างานและ พนักงานได้สื่อสารและหารือแนวทางร่วมกัน (two-way communication) รวมถึงเป็นการหาโอกาสสำหรับการปรับปรุงกระบวนการ ทำงานให้มีประสิทธิภาพ เพื่อให้เกิดความสอดคล้องกับทิศทางและเป้าหมายของทั้งในส่วนงานและเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับเป้า หมายของบริษัทฯ

การพัฒนาศักยภาพพนักงาน

บริษัทฯ ให้ความสำคัญและตระหนักถึงการพัฒนาศักยภาพ และการส่งเสริมความรู้ความสามารถของพนักงานให้มีความ หลากหลายตามสาขาอาชีพ เพื่อให้เชื่อมโยงกับกลยุทธ์ขององค์กรและแผนงานการจัดการด้านทรัพยากรบุคคล ซึ่งถือว่าเป็นภารกิจ ที่สำคัญของบริษัทฯ โดยการสร้างให้องค์กรเป็นพื้นที่แห่งการเรียนรู้และมุ่งพัฒนาศักยภาพของบุคคลากรเพื่อเตรียมความพร้อม และเสริมสร้างทักษะที่จำเป็นให้สอดคล้องกับทิศทาง โอกาส และความท้าทายของธุรกิจใจอนาคต ซึ่งจะสอดคล้องกับแผนกลยุทธ์ ด้านการพัฒนาบุคคลากร ที่ให้ความสำคัญแก่ “คุณค่า (Value)” ภายใต้กรอบของหลักการของการให้ “โอกาส” ที่มุ่งเน้นให้โอกาส ในการสร้างคุณค่าแก่บุคคลากรภายในบริษัทฯ ซึ่งบริษัทฯ ปฏิบัติต่อพนักงานทุกคนทุกระดับด้วยความเสมอภาคเพื่อให้ได้รับ การพัฒนาศักยภาพตนเองผ่านความใส่ใจและการดูแลอย่างทั่วถึง

การวางแผนผู้สืบทอดตำแหน่ง

บริษัทฯ ตระหนักและเตรียมความพร้อมด้านบุคลากรเชิงรุก โดยมีการวางแผนผู้สืบทอด ตำแหน่งเพื่อป้องกันการขาดแคลนบุคลากรในตำแหน่งที่สำคัญมาตลอด เพื่อความต่อ เนื่องทางธุรกิจและเตรียมความพร้อมในการขยายตัวทางธุรกิจ บริษัทฯ ได้มีการสรรหา และพัฒนาผู้ที่จะดำรงตำแหน่งแทนท่านในตำแหน่งสำคัญหรือใกล้ถึงการเกษียณ หรืออาจทำให้เกิดความไม่ต่อเนื่องในการดำเนินธุรกิจโดยเน้นวิธีการสรรหาบุคลากรจาก ภายใน (internal recruitment) ก่อนการดำเนินการสรรหาบุคลากรจากภายนอก ซึ่งจะคำนึงถึงคุณสมบัติและสมรรถนะการดำเนินการคัดเลือกบุคลากรโดยใช้เครื่องมือ ต่าง ๆ ประกอบการทดสอบและประเมินผล โดยใช้หลักเกณฑ์ในการพิจารณา 2 ด้าน คือ ผลการปฏิบัติงานที่ผ่านมา (Performance Appraisal) และ ผลการประเมินศักยภาพ ซึ่งจะเป็นการสร้างโอกาสในการก้าวหน้าในสายงานอาชีพให้กับพนักงานที่มีศักยภาพและ มีผลงานดีอย่างต่อเนื่อง

ผู้มีส่วนได้เสียที่เกี่ยวข้อง

พนักงาน/ผู้บริหาร
  • ผู้ที่ได้รับผลประโยชน์โดยตรงจากสวัสดิการและการพัฒนาศักยภาพ
  • ผู้มีบทบาทในการกำหนดนโยบายและทิศทางของการบริหารบุคลากร
คู่ค้า

กลุ่มที่ต้องดำเนินงานตามมาตรฐานแรงงานของบริษัทฯ

ภาครัฐ

ผู้ที่มีบทบาทในการออกกฎระเบียบด้านแรงงาน

ชุมชนและสังคม

ได้รับผลกระทบจากแนวทางการบริหารทรัพยากรบุคคล ของบริษัทฯ